ปัจจุบันผู้คนในสังคมให้ความสำคัญกับอินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นกระจุกสังคมขึ้น ที่ไหนมีกลุ่มสังคม ที่นั่นย่อมมีธุรกิจเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เองบนสังคมออนไลน์จึงมีการทำการตลาดออนไลน์อยู่ในนั้นด้วย ซึ่งการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ หรือ Digital Marketing
มันก็คือ การตลาดที่ใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ในระบบดิจิตอล มาทำการตลาดผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยี โดยอาศัยเครือข่ายสังคมออนไลน์นี่แหละ งัดเอามาเป็นกลยุทธ์หลักทางการตลาด นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ยังไม่มีหลักสูตรสำเร็จที่ตายตัว ไม่มีโรงเรียนไหนเปิดสอนหลักสูตรนี้อย่างเป็นทางการ นักการตลาดจะต้องอาศัยความคิดในเชิงสร้างสรรค์ แปลกใหม่ในการสื่อออกมาให้ผู้คนเข้าใจถึงช่องทางในการทำการตลาดแบบใหม่นี้เอง โดย Digital Marketing สามารถเข้าใช้ได้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือเครือข่ายโทรคมนาคม ที่เรียกว่า Cloud Computing หรือ SaaS (Software as a Service) ได้อีกด้วย ทำให้กลายเป็นเทรนด์ที่ใครๆก็พูดถึงนั่นเอง
ข้อดีของ Digital Marketing คือมันจะเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กับเจ้าของธุรกิจ เพราะคนในสังคมออนไลน์นั้นมีขนาดใหญ่และกว้างขวาง ไม่ใช่มีเพียงแค่ภายในพื้นที่ชุมชน จังหวัด ประเทศ เท่านั้น แต่ยังขยายไปไกลและครอบคลุมได้ทั่วโลก ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ต้นทุนที่ต่ำกว่าในการทำการตลาด ซึ่งบางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเลยก็เป็นได้ เช่นการทำการตลาดโดยผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา Facebook, Twitter, LinkedIn, Stump Up, Yelp, MySpace เป็นต้น และนอกจากนี้ การทำ Digital Marketing นั้นสามารถวัดผลได้จากจำนวนผู้ที่คลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ หรือผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนร่วมกิจกรรม แต่การจะได้ข้อมูลเหล่านี้ นักการตลาดต้องวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น เพื่อให้ฝ่ายเทคนิคตระเตรียมระบบเก็บข้อมูลนี้ไว้ตั้งแต่สร้างสื่อดิจิตัล และต้องเลือกเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อนำมาต่อยอดได้จริงเท่านั้น
เทรนด์ของ Digital Marketing ที่น่าจับตามอง
– Content Marketing การทำการตลาดด้วยบทความมีมายาวนานกว่า 120 ปี และก็ยังใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหลายๆบริษัทได้หันมาให้ความใส่ใจในการพัฒนาการใช้คอนเทนต์หรือบทความเป็นตัวอธิบายเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ของตนเอง
– Advertising หรือการโฆษณา ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ด้วยการพัฒนาระบบที่เรียกว่า DMP หรือ Data Management Platform ทำให้นักการตลาดสามารถที่จะเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำเพื่อให้โฆษณาแสดงผลต่อคนกลุ่มนี้เท่านั้นได้มากขึ้น
– Big Data หรือข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ถูกเก็บเอาไว้ และไม่สามารถประมวลผลได้ด้วยมือคนธรรมดาหรือด้วยโปรแกรมใดเพียงโปรแกรมเดียว ผลกระทบขอข้อมูลปริมาณมากมายนี้ยังต้องจับตามองกันต่อ โดยภายในปี 2020 ข้อมูลจำนวนมหาศาลนี้จะมีการเติบโตอย่างทวีคูณจนอาจจะเข้าใกล้ 40,000,000,000,000,000,000,000 ไบต์เลยทีเดียว
– Mobile Marketing การตลาดบนอุปกรณ์พกพา (โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ) มีการเติบโตอย่างช้าๆ แต่มาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดยุคปัจจุบัน หลายๆ ธุรกิจได้ประยุกต์มาทำธุรกรรมต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือไปแล้ว และนั่นทำให้การออกแบบเว็บต้องปรับตัวตาม จึงเป็นที่มาของรูปแบบ Responsive Web Design หรือการออกแบบเว็บให้สามารถตอบสนองหรือตอบโต้ได้ ซึ่งยิ่งเว็บไซต์ตอบสนองกับผู้ใช้ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้กลับมามากขึ้นเท่านั้น